
• เนื้อมะม่วงดิบ (หรือสุก) 100 กรัม (ครึ่งผล)
• น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
(ใช้สารให้ความหวาน หรือน้ำตาลเทียมแทนได้)
• น้ำเปล่าสะอาด 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
• เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
• วิธีที่ 1
ใช้มะม่วงดิบ เช่น มะม่วงแก้ว หรือมะม่วงแรด เป็นมะม่วงมีรสไม่เปรี้ยวมากนัก จะได้น้ำมะม่วงที่มีรสกลมกล่อม ปอกเปลือกมะม่วงออก ล้างน้ำ สับให้เป็นชิ้นเล็กๆ คั้นกับน้ำเปล่าสะอาด กรองด้วยผ้าขาวบาง เอกากออก เติมน้ำเชื่อม เกลือป่น ชิมรสตามชอบ ใส่น้ำแข็งทุบ จำได้น้ำมะม่วงสีขาวใส มีรสหวานอมเปรี้ยว
• วิธีที่ 2
ใช้มะม่วงดิบ เหมือนวิธีที่ 1 แต่มับเป็นชิ้นเล็กๆ ปั่นให้ละเอียด เติมน้ำเปล่าสะอาด น้ำเชื่อม เกลือป่นชิมรสตามต้องการ ใส่น้ำแข็งทุบ หรือปั่นกับน้ำแข็ง น้ำมะม่วงวิธีนี้จะขุ่นขาว และมัน เพราะมีเนื้อมะม่วงอยู่
• วิธีที่ 3 ใช้มะม่วงสุข ล้างให้สะอาด ปอกเปลือก ฝานเอาแต่เนื้อเข้าเครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าสะอาด เติมเกลือเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ ถ้าต้องการหวานใส่น้ำเชื่อมหรือสารให้ความหวานลงไป ถ้าต้องการทำน้ำปั่นให้ลดน้ำเปล่าลง ปั่นกับน้ำแข็งทุบ ถ้าต้องการแบบเย็น เติมน้ำแข็งทุบได้ตามชอบ
น้ำมะม่วง เตรียมแล้วควรดื่มให้หมดโดยเร็ว ถ้าไม่หมดแช่ตู้เย็นได้ โดยควรดื่มให้หมดใน 1 วัน เพื่อรักษาสารอาหารและรสชาติ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอและซีสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และยังมีฟอสฟอรัส แคลเซียม และเหล็กเล็กน้อย
คุณค่าทางยา เป็นยาระบายอ่อนๆ
ที่มา http://202.129.59.73/nana/frwater/mango.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น